โรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร เกิดมากเป็นอันดับ 3 ของมะเร็งในคนไทย ระยะแรกจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แต่อาจมีสัญญาณเตือน เช่น ปวดจุกแน่นท้อง ระบบขับถ่ายผิดปกติ อาเจียนหรืออุจจาระเป็นเลือด หากมีอาการดังกล่าวควรรีบวินิจฉัยด้วยการส่องกล้อง เพื่อค้นหาความผิดปกติอย่างละเอียด และรักษาได้อย่างทันท่วงที ก่อนมะเร็งลุกลาม
ตรวจโดยการกล้องส่องเข้าไปทางปาก ผ่านหลอดอาหารลงไปภายในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น ลักษณะของกล้องเป็นท่อขนาดเล็กปรับความโค้งงอได้ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร และส่วนปลายของกล้องจะมีเลนส์ขยายภาพ ส่วนอีกด้านจะส่งภาพมายังจอมอนิเตอร์ ซึ่งทำให้แพทย์เห็นภายในอวัยวะที่ตรวจได้อย่างชัดเจน
- เพื่อตรวจหาความผิดปกติในระบบทางเดินอาหารส่วนต้น ตั้งแต่หลอดอาหาร ไล่ลงไปกระเพาะอาหารเพื่อหาสาเหตุอาการโรค
- ขณะทำการรักษาคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ แพทย์อาจให้ยาเพื่อคลายกังวล และจะพ่นยาที่คอหรือให้ยาเพื่อให้ชาที่ด้านหลังของคอ
- เมื่อค้นหาสาเหตุ หรือตรวจพบความผิดปกติ แพทย์สามารถทำการรักษาได้ทันที เช่น ติ่งเนื้อ หรือเนื้องอก
- มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ใช้เวลาการตรวจประมาณ 10 -15 นาที
ตรวจโดยการกล้องส่องเข้าขนาดเล็ก มีลักษณะยืดหยุ่นได้ มีกล้องและไฟบริเวณส่วนปลายเพื่อให้ได้ภาพคมชัดในการตรวจ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถเห็นพยาธิสภาพภายในได้อย่างชัดเจน และทำการตรวจรักษาในจุดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
- เพื่อหาสาเหตุของความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ และตัดชิ้นเนื้อที่ผิดปกติโดยไม่ต้องผ่าตัดทางช่องท้อง
- เพื่อหาสาเหตุและรักษาอาการเลือดออกในลำไส้ใหญ่ ความผิดปกติเกี่ยวกับการขับถ่ายอุจจาระ เช่น ท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง อุจจาระมีเลือดปน มีติ่งเนื้อยื่นออกมา มีอาการท้องอืด แน่นท้อง ซีด อ่อนเพลีย
- ช่วยในการรักษาก้อนเนื้องอกแบบที่ไม่ใช่มะเร็ง (polyps) ที่เกิดขึ้นที่บริเวณผนังลำไส้ใหญ่
- เมื่อค้นหาสาเหตุ หรือตรวจพบความผิดปกติ แพทย์สามารถทำการรักษาได้ทันที
- มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ใช้เวลาการตรวจประมาณ 30 นาที